เมนู

หมวดที่ 8


[363] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ประพฤติมานัต ไม่พึงอยู่
ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาส กับภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกัน ในถิ่นมิใช่อาวาส
ไม่พึงอยู่ในที่มุงอันเดียวกันในอาวาสก็ดี ในถิ่นมิใช่อาวาสก็ดี
ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะอันเดียวกันกับภิกษุผู้อยู่ปริวาส
...กับภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม.
...กับภิกษุผู้ควรมานัต
...กับภิกษุผู้ประพฤติมานัตผู้แก่กว่า
...กับภิกษุผู้ควรอัพภาน
เมื่อปักตัตตะภิกษุนั่ง ณ อาสนะต่ำ ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะสูง
เมื่อปกตัตตะภิกษุนั่ง พื้นดิน ไม่พึงนั่ง ณ อาสนะ
ไม่พึงจงกรมในที่จงกรมเดียวกัน
เมื่อปกตัตตะภิกษุจงกรมอยู่ในที่จงกรมต่ำ ไม่พึงจงกรมในที่จง
กรมสูง
เมื่อปกตัตตะภิกษุจงกรมอยู่ ณ พื้นดิน ไม่พึงจงกรมในที่จงกรม
[364] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าสงฆ์มีภิกษุผู้ประพฤติมานัตเป็นที่
4 พึงให้ปริวาส พึงชักเข้าหาอาบัติเดิม พึงให้มานัต สงฆ์ 20 รูป ทั้ง
มานัตตจาริกภิกษุนั้น พึงอัพภาน การกระทำดังนั้น ใช้ไม่ได้และไม่
ควรทำ.

รัตติเฉท 4 อย่าง


[365] ครั้งนั้น ท่านพระอุบาลีเข้าไปในพุทธสำนัก ครั้นแล้ว
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้านั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้ทูล
ถามความข้อนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ความขาดแห่งราตรีของพระภิกษุ
ผู้ประพฤติมานัต มีเท่าไร พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อุบาลี ความขาดแห่งราตรีของภิกษุผู้
ประพฤติมานัตมี 4 คือ อยู่ร่วม 1 อยู่ปราศ 1 ไม่บอก ประพฤติใน
คณะอันพร่อง 1 รัตติเฉทของภิกษุผู้ประพฤติมานัตมี 4 อย่างนี้แล.

พุทธานุญาตให้เก็บมานัต


[366] ก็โดยสมัยนั้นแล ในพระนครสาวัตถี มีภิกษุสงฆ์เป็นอัน
มากมาประชุมกัน ภิกษุทั้งหลายผู้ประพฤติมานัต ไม่สามารถชำระมานัตได้
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้เก็บ
มานัต

วิธีเก็บมานัต


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล วิธีเก็บมานัตพึงเก็บอย่างนี้
ภิกษุผู้ประพฤติมานัตนั้น พึงเข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่ง ห่มผ้าอุตรา-